ระบบคลื่นวิทยุ AM FM
-หลักการทำงาน
การทำงานของวิทยุ แบ่งเป็นสองประเภทคือ วิทยุ AM และ FM โดยทั้งสองประเภทนั้นทางกลุ่มเราจะขอผ่านในหัวข้อที่เกี่ยวกับประวัติ และจะขอกล่าวในส่วนเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับวิชา Signals and Systems เป็นหลัก แต่หากท่านสนใจเกี่ยวกับเรื่องประวัติการค้นพบคลื่นวิทยุและหลักการทางวิทยาศาสตร์เบ้องต้น สามารถศึกษาค้นคว้าต่อได้ที่
การทำงานโดยรวมของการรับส่งวิทยุ
การทำงานทั่วไปของระบบวิทยุอาจมองได้ตามภาพ โดยเริ่มแรกจะเกิดขึ้นที่ห้องผลิตรายการซึ่งทำการผสมเสียงจากแหล่งต่างๆเข้าด้วยกัน เช่น จากไมโครโพน จากเทป จากVCD DVD และอื่นๆซึ่งจะได้เสียงที่ผสมกันในรูปของคลื่นไฟฟ้าจากนั้นก็ส่งไปยังเครื่องส่งต่อไป สำหรับเครื่องส่งก็จะทำหน้าที่ผสมคลื่นเสียงกับคลื่นวิทยุเข้าด้วยกันหรือจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าคลื่นนำพา(carrier wave)ซึ่งจะเกิดจากการทำงานของวงจร Oscillator
การทำงานทั่วไปของระบบวิทยุอาจมองได้ตามภาพ โดยเริ่มแรกจะเกิดขึ้นที่ห้องผลิตรายการซึ่งทำการผสมเสียงจากแหล่งต่างๆเข้าด้วยกัน เช่น จากไมโครโพน จากเทป จากVCD DVD และอื่นๆซึ่งจะได้เสียงที่ผสมกันในรูปของคลื่นไฟฟ้าจากนั้นก็ส่งไปยังเครื่องส่งต่อไป สำหรับเครื่องส่งก็จะทำหน้าที่ผสมคลื่นเสียงกับคลื่นวิทยุเข้าด้วยกันหรือจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าคลื่นนำพา(carrier wave)ซึ่งจะเกิดจากการทำงานของวงจร Oscillator
-เครื่องรับ เครื่องส่ง
ระบบ FM คืออะไร?
ระบบ FM คือระบบเทคโนโลยีไร้สายที่ส่งสัญญาณโดยตรงจากแหล่งกำเนิดเสียงไปสู่หู ประกอบด้วย ไมโครโฟนส่งสัญญาณ และ เครื่องรับสัญญาณอีก1-2 ชิ้นโดยปกติไมโครโฟนส่งสัญญาณของระบบ FM จะต่อกับวิทยุส่งสัญญาณ ไมโครโฟนทำหน้าที่รับเสียงที่ต้องการ โดยปกติจะเป็นเสียงคำพูดบุคคลที่ผู้ฟังต้องการเน้นที่จะฟัง เครื่องแปลงสัญญาณจะทำการส่งสัญญาณเสียงผ่านคลื่นวิทยุส่งสัญญาณ ไปยังเครื่องรับสัญญาณที่ติดอยู่กับอุปกรณ์ช่วยการได้ยิน เสียงจะถูกนำไปสู่อุปกรณ์ช่วยการได้ยินที่ทำหน้าที่ขยายเสียงที่รับเข้าไปนั้นให้ผู้ใช้ได้ยินคำพูดเสมือนผู้พูดอยู่ใกล้ๆระบบ FM เชื่อมต่ออุปกรณ์ช่วยการได้ยินไม่ว่าจะเป็นเครื่องช่วยฟัง บาฮา หรือเครื่องแปลงสัญญาณประสาทหูเทียม โดยใช้เทคโนโลยีไร้สายเพื่อเสริมการจับคำพูด
ประเภทของสัญญาณวิทยุ
สัญญาณวิทยุแบบ AM (Amplitude Modulation)AM ย่อมาจาก Amplitude Modulation ซึ่งเป็นการสื่อสารโดยการส่งสัญญาณที่เกิดจากการผสมคลื่นเสียงเข้ากับคลื่นพาหะโดยสัญญาณเสียงจะบังคับให้แอมพลิจูดของคลื่นพาหะเปลี่ยนแปลงไปโดยคลื่นพาหะยังมีความถี่เท่าเดิม ช่วงความถี่ของสัญญาณ AM นั้น จะอยู่ที่ 535 ถึง 1705 กิโลเฮิร์ต ตามทฎษฏี จะสามารถมีสถานีส่งสัญญาณ AM ได้ทุกค่าความถี่ที่เปลี่ยนไป 10 กิโลเฮิร์ต ดังนั้นสามารถมีสถานีส่งได้ 117 ช่อง
สัญญาณวิทยุแบบ AM (Amplitude Modulation)AM ย่อมาจาก Amplitude Modulation ซึ่งเป็นการสื่อสารโดยการส่งสัญญาณที่เกิดจากการผสมคลื่นเสียงเข้ากับคลื่นพาหะโดยสัญญาณเสียงจะบังคับให้แอมพลิจูดของคลื่นพาหะเปลี่ยนแปลงไปโดยคลื่นพาหะยังมีความถี่เท่าเดิม ช่วงความถี่ของสัญญาณ AM นั้น จะอยู่ที่ 535 ถึง 1705 กิโลเฮิร์ต ตามทฎษฏี จะสามารถมีสถานีส่งสัญญาณ AM ได้ทุกค่าความถี่ที่เปลี่ยนไป 10 กิโลเฮิร์ต ดังนั้นสามารถมีสถานีส่งได้ 117 ช่อง
ข้อดีของสัญญาณวิทยุ FMการส่งสัญญาณวิทยุแบบ FM ทนต่อสัญญาณรบกวนได้ดีกว่า จากสองปัจจัย คือ
สัญญาณรบกวนส่วนใหญ่จะเป็นสัญญาณที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางแอมพลิจูดซึ่ง FM ใช้วิธีการในการเปลี่ยนแปลงทางความถี่ของคลื่นพาหะโดยไม่เปลี่ยนแปลงแอมพลิจูดทำเกิดผลกระทบเมื่อมีสัญญาณรบกวนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงแอมพลิจูดน้อยมาก แต่ AM จะส่งโดยการเปลี่ยนแปลงทางแอมพลิจูดของคลื่นพาหะทำให้เกิดสัญญาณรบกวนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางแอมพลิจูดนั้นจะมีผลต่อสัญญาณมากกว่าทำให้มีคลื่นรบกวนได้ง่ายกว่า FM
สัญญาณรบกวนส่วนใหญ่จะเป็นสัญญาณที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางแอมพลิจูดซึ่ง FM ใช้วิธีการในการเปลี่ยนแปลงทางความถี่ของคลื่นพาหะโดยไม่เปลี่ยนแปลงแอมพลิจูดทำเกิดผลกระทบเมื่อมีสัญญาณรบกวนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงแอมพลิจูดน้อยมาก แต่ AM จะส่งโดยการเปลี่ยนแปลงทางแอมพลิจูดของคลื่นพาหะทำให้เกิดสัญญาณรบกวนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางแอมพลิจูดนั้นจะมีผลต่อสัญญาณมากกว่าทำให้มีคลื่นรบกวนได้ง่ายกว่า FM
ข้อเสียของสัญญาณวิทยุ FMเมื่ออยู่ในจุดอับสัญญาณเช่น ในชั้นใต้ดิน หรือในตัวอาคารใหญ่ๆ จะทำให้สัญญาณไม่ชัดหรืออาจจะรับสัญญาณนั้นไม่ได้เลย
สัญญาณรบกวนส่วนใหญ่จะเป็นสัญญาณที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางแอมพลิจูดซึ่ง FM ใช้วิธีการในการเปลี่ยนแปลงทางความถี่ของคลื่นพาหะโดยไม่เปลี่ยนแปลงแอมพลิจูดทำเกิดผลกระทบเมื่อมีสัญญาณรบกวนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงแอมพลิจูดน้อยมาก แต่ AM จะส่งโดยการเปลี่ยนแปลงทางแอมพลิจูดของคลื่นพาหะทำให้เกิดสัญญาณรบกวนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางแอมพลิจูดนั้นจะมีผลต่อสัญญาณมากกว่าทำให้มีคลื่นรบกวนได้ง่ายกว่าFM
สัญญาณรบกวนส่วนใหญ่จะเป็นสัญญาณที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางแอมพลิจูดซึ่ง FM ใช้วิธีการในการเปลี่ยนแปลงทางความถี่ของคลื่นพาหะโดยไม่เปลี่ยนแปลงแอมพลิจูดทำเกิดผลกระทบเมื่อมีสัญญาณรบกวนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงแอมพลิจูดน้อยมาก แต่ AM จะส่งโดยการเปลี่ยนแปลงทางแอมพลิจูดของคลื่นพาหะทำให้เกิดสัญญาณรบกวนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางแอมพลิจูดนั้นจะมีผลต่อสัญญาณมากกว่าทำให้มีคลื่นรบกวนได้ง่ายกว่าFM
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น